ก่อนอื่น ขอกราบสวัสดีก่อนเป็นอันดับแรกครับ สำหรับวันนี้ผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟัง ในเรื่องของไบโอเมตริกซ์ ท่านสงสัยไหมครับว่าไบโอเมตริกซ์ คือเทคโนโลยีอะไรมันคืออะไรกันแน่?? สงสัยมานานแล้วใช่ไหมครับวันนี้ผมจะมาไขข้อสงสัยกันในวันนี้
ผมจะขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ ไบโอเมตริกซ์ (Biometric) “เป็นการผสมผสานทางเทคโนโลยี ทางด้านชีวภาพ และทางการแพทย์ กับเทคโนโลยีทาง คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน โดยการตรวจวัด/ตรวจสอบ คุณลักษณะทางกายภาพ (Physical Characteristics) และ ลักษณะทาง พฤติกรรม (Behaviors) ที่เป็นลักษณะเฉพาะ ของแต่ละคน มาใช้ในการระบุตัวบุคคลนั้น ๆ แล้วนำสิ่งเหล่านั้น มาเปรียบเทียบกับคุณลักษณะที่ได้มีการบันทึกไว้ในฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง” พอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมละครับ พูดกันง่ายๆฟังเข้าใจก็คือเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับยืนยัน ตัวบุคคลด้วยการเปรียบเทียบ Pattern ของ Physical หรือ พฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์ด้วยคอมพิวเตอร์ นั่นเองละครับ
ซึ่งลักษณะทางกายภาพที่ผมกล่าวมานี้ ก็เช่น เครื่องสแกนใบหน้า ,เครื่องสแกนลายนิ้วมือ ,เครื่องสแกนม่านตา รวมถึงกลิ่นก็จัดว่าเป็นลักษณะทางกายภาพด้วยเช่นกันครับ
การนำเอาไบโอเมตริกซ์มาประยุกต์ใช้
การนำเอาไบโอเมตริกซ์มาช่วยส่วนใหญ่เป็นงานที่มีความจำเป็นในการตรวจสอบ และระบุตัวบุคคลคือเป็นงาน ที่ต้องมีความมั่นใจว่า บุคคลที่เข้ามาใช้งานนั้นเป็นบุคคลที่ผู้นั้นระบุว่าตนเองเป็น รวมถึงงานที่ต้องการความสะดวก และรวดเร็วในการระบุตัวผู้ใช้ การประยุกต์ใช้งาน ไบโอเมตริกซ์นั้นเหมาะสมทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน
การควบคุมการเข้าออกสถานที่ / หรือการใช้ตรวจสอบเวลาทำงาน
ซึ่งสามารถนำไปใช้ สถานที่หรือเขตที่หวงห้าม โดยนำไบโอเมตริกซ์มาช่วย เช่น การตรวจสอบการผ่านเข้าออกโดยใช้ลายนิ้วมือ รูปหน้า ลักษณะของเรตินาภายในดวงตา หรืออาจนำไปใช้กับการควบคุม การเข้าออกสถานที่ ได้แก่ การตรวจสอบเวลาทำงานของพนักงาน ซึ่งระบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันคือ การเซ็นชื่อ, การใช้บัตรตอกลงเวลา และการใช้บัตรแถบแม่เหล็ก การเซ็นชื่อนั้น ควบคุมเวลาได้ไม่ถูกต้อง แน่นอน การใช้บัตรตอกลงเวลา ต้องเสียเวลาการนำเอาบัตรตอกมาคำนวณหาเวลาการทำงาน ดังนั้นจึงมีการนำเอาบัตรแถบแม่เหล็กมาใช้ ซึ่งง่ายต่อการคำนวณหาเวลาทำงาน เพราะสามารถเชื่อมต่อได้โดยตรงกับระบบคอมพิวเตอร์ แต่การใช้บัตรตอก หรือการใช้บัตรแถบแม่เหล็ก มีข้อบกพร่องที่สำคัญคือ พนักงานสามารถตอกบัตรแทนกัน (Buddy Punching) ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับองค์กรทุกองค์กรเป็นอย่างมาก ดังนั้นการนำเอาไบโอเมตริกซ์มาช่วยในการตรวจสอบเวลาทำงานจึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ทั้งนี้เพราะยากต่อการปลอมแปลง และเพิ่มความสะดวกต่อพนักงาน เพราะไม่มีปัญหาเรื่องการลืม หรือการหายของบัตรแถบแม่เหล็ก